ดอดจ์ ไวเปอร์ (อังกฤษ: Dodge Viper) เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง ผลิตโดยบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกัน นามว่า ดอดจ์ (Dodge) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ไครส์เลอร์กรุ๊ป เริ่มผลิตครั้งแรกใน ค.ศ. 1992 และปิดไลน์การผลิตลงในปี ค.ศ. 2010 เนื่องจากปัญหาทางการเงิน[1][2] แต่ถึงอย่างก็ตาม ในปี 2013 ไวเปอร์ ก็ได้ออกสู่สายตาชาวโลกอีกครั้ง ในโฉมที่ 5 หลังจากเหินหายไป 3 ปีนับจากปีที่ยุติการผลิต
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดอดจ์ ไวเปอร์ เป็นรถธง ของบริษัทดอดจ์มาโดยตลอด สร้างชื่อเสียงมหาศาลให้บริษัท ด้วยความที่เป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์ วี10 (V10) ทำให้เป็นรถที่มีสมรรถนะสูงมาก สามารถใช้เป็นรถแข่งได้ดี จนมีการนำดอดจ์ ไวเปอร์ ไปออกรายการโทรทัศน์, ไปออกแบบเป็นรถแข่งในเกม, ไปถ่ายทำภาพยนตร์ และมิวสิกวีดีโอจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ดอดจ์ ไวเปอร์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการรถ โดยเฉพาะวงการรถสปอร์ต และวงการรถแข่ง
ใน ค.ศ. 1989 ในการประชุมใหญ่ของบริษัทในเครือไครส์เลอร์กรุ๊ปทั้งหมด โรเบิร์ต ลุตซ์ (Robert Lutz) ประธานบริษัทไครส์เลอร์กรุ๊ปในขณะนั้น ได้ออกความคิดเห็นในที่ประชุมว่า บริษัทในเครือไครส์เลอร์ น่าจะผลิตรถสปอร์ตรุ่นใหม่ขึ้น ดังนั้นจึงมีการกลับไปออกแบบรถสปอร์ตรุ่นใหม่ขึ้นมา เมื่อออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีการปั้นรูปปั้นรถจำลองขึ้นมาจากดินเหนียว แล้วนำเสนอให้โรเบิร์ตดู เมื่อโรเบิร์ตดูรูปปั้นดินเหนียว ก็เห็นทีท่าว่าน่าจะสามารถทำตลาดได้ดี ดังนั้น จึงมีการตั้งทีมขึ้นมาพัฒนาอย่างจริงจัง
ทีมที่คิดค้นพัฒนารถรุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วยวิศวกร 86 คน ชื่อว่า "Team Viper" นำโดย รอย สโจเบิร์ก (Roy Sjoberg) เริ่มการคิดค้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1989 การพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 ทดลองตรวจสอบและพัฒนาความปลอดภัยอย่างถี่ถ้วนอีก 1 ปี และเริ่มผลิตจริงใน ค.ศ. 1992 โดยตั้งชื่อรุ่นว่า ไวเปอร์ ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า อสรพิษ (อสรพิษแห่งสนามแข่ง ทำให้คู่แข่งพ่ายแพ้)
ดอดจ์ ไวเปอร์ มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาแบ่งได้ 5 โฉม ดังนี้
Cr. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B9%8C_%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น